แม้ว่าในปีนี้สถานการณ์เศรษฐกิจจะไม่ค่อยสู้ดี คนจำเป็นต้องรัดเข็มขัดกันมากขึ้น แต่ก็มีหลายคนจำเป็นอย่างมากที่จะต้องออกรถคันใหม่ เพราะจำเป็นที่จะต้องใช้ในการทำงานและการดำรงชีพ จะยากลำบากในการดาวน์การผ่อนอย่างไร ก็ต้องสู้กันไป สิ่งที่จะต้องวางแผนให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจซื้อรถคันใหม่ก็คือ เรื่องของแผนการเงินและการใช้จ่าย นอกจากเรื่องการเช็คราคาประกันรถยนต์ แล้ว ยังมีอีกหลายอย่างที่จะต้องเช็คตรวจสอบวางแผนให้ดี หากตอนนี้จะซื้อรถคุณควรจะต้องเตรียมค่าใช้จ่ายเรื่องใดไว้บ้าง เรามีคำตอบมาให้
1.ค่าใช้จ่ายในการดาวน์และเงินผ่อนต่อเดือน
แม้ว่าในขณะนี้ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ จะจัดโปรโมชั่นแบบแรง ๆ ดึงดูดลูกค้า อย่างการดาวน์ 0% แต่นั่นก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเสมอไป การดาวน์น้อยนั่นหมายถึงระยะการผ่อนก็ต้องนานขึ้น ในสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา การเป็นหนี้ระยะยาวอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดี ดังนั้น จึงอยากจะแนะนำว่า หากจะซื้อรถใหม่จริง ๆ ต้องดูตนเองว่ามีเงินดาวน์หรือไม่ และมีแค่ไหน ถ้าเป็นไปได้อย่ารับโปรโมชั่นดาวน์ 0% ให้วางเงินดาวน์ไปส่วนหนึ่งก่อนก็ยังดี
นอกจากเงินดาวน์แล้วก็ต้องดูเรื่องงานเรื่องรายได้ของตนเองที่จะเข้ามาด้วย เพราะยังมีเงินที่เราต้องผ่อนกับไฟแนนซ์รายเดือน หากคำนวณแล้วสู้ได้แน่ก็จัดไป
2.ใครซื้อรถเงินสดก็อย่าลืมเตรียมค่าโอน
สำหรับใครที่รายได้ถึง เงินเก็บมีเยอะ ออกรถคันใหม่แบบไม่ต้องขอผ่อน ใช้เงินสดวางแล้วซื้อเลย ก็ต้องบอกว่าเก่งมาก แต่อย่างไรก็ดี ก็ยังมีค่าใช้จ่ายนอกเหนือที่ต้องเตรียมไว้ด้วยนั่นก็คือ ค่าโอนรถ ที่เราจะต้องจ่ายเอง อาจมีค่ายรถหรือโชว์รูมบางแห่งจัดโปรโมชั่นฟรีค่าโอน แต่การดำเนินการด้านเอกสารเราก็ต้องเดินเรื่องเอง ก็เป็นอีกเรื่องส่วนที่ต้องเตรียมให้พร้อม
3.เตรียมค่าใช้จ่ายเรื่องประกันรถ ทั้งภาคบังคับแบบสมัครใจ และภาษี
ประกันรถภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ. รถยนต์ เป็นสิ่งที่รถทุกคนต้องมี รวมถึงค่าภาษีรถยนต์รายปีด้วย จึงเป็นค่าใช้จ่ายที่ตายตัวเมื่อมีรถ ซึ่งค่าใช้จ่ายตรงนี้ก็ไม่สูงนัก
- ถ้าเป็นรถยนต์ 4 ประตู ค่าใช้จ่ายพ.ร.บ. รถยนต์ จะอยู่ที่ประมาณ 6xx บาท/ปี
- ถ้าเป็นรถกระบะ ค่าใช้จ่ายพ.ร.บ. รถยนต์ จะอยู่ที่ประมาณ 9xx บาท/ปี
- ค่าภาษีรถยนต์ ก็จะอยู่ที่1,500 – 3,000 บาท/ปี (ขึ้นอยู่กับขนาดเครื่องยนต์)
ส่วนประกันแบบสมัครใจตรงนี้เราสามารถกำหนดเองตามกำลังของเราได้ โดยก่อนที่จะตัดสินใจทำก็ให้เช็คราคาประกันรถยนต์ให้ดีก่อนว่าตนเอง เหมาะกับประกันชั้นไหน ซึ่งปัจจุบันการเช็คเบี้ยเพื่อการตัดสินใจก็สามารถทำได้ง่ายมาก ๆ เข้าไปในเว็บไซต์บริการเช็คเบี้ยประกันรถยนต์อย่าง Easy Compare ก็ได้ ก็จะสามารถเลือกเปรียบเทียบประกันจากค่ายต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนั้นแล้วก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่น ๆ อีก เช่น
- ค่าเชื้อเพลิงรถ (น้ำมันรถ, ค่าแก๊ส) ให้เตรียมไว้เลยเผื่อเหลือเผื่อขาด ประมาณ 4,000 – 6,000 บาท/เดือน
- ค่าบำรุงรักษารถ ทั้งค่าล้าง ค่าตรวจสภาพเปลี่ยนอะไหล่ต่าง ๆ ให้คิดเป็นรายปี เฉลี่ยนอยู่ที่ปีละ 5,000-10,000 บาท
- ค่าที่จอดรถ อันนี้ก็เริ่มเป็นสิ่งจำเป็นในยุคนี้ บางคนบ้านไม่มีที่จอด คอนโดก็เต็มโควตาแล้ว ก็ต้องหาที่จอดที่เสียค่าใช้จ่าย ก็เฉลี่ยไปอยู่ที่ 600 – 4,000 บาท/เดือน
นี่คือ ค่าใช้จ่ายที่คุณจะต้องรับมือ เมื่อตัดสินใจซื้อรถใหม่ในตอนนี้ ซึ่งก็เป็นค่าใช้จ่ายที่หนักหน่วงอยู่เหมือนกัน ก็ต้องมาดูว่าอะไรที่ลดได้บ้าง ซึ่งจะเห็นว่าที่ดูยืดหยุ่นที่สุดก็คือประกันรถยนต์ คุณสามารถเปรียบเทียบราคาประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับสไตล์การขับขี่ของตนเองก่อนตัดสินใจได้ ก็อยู่ที่คุณแล้วล่ะว่าจะเลือกอย่างไร ถึงจะสอดรับกับไลฟ์สไตล์และความจำเป็นของตนเอง
